
เป็นหน่วยความจำที่มีใช้งานอยู่ในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์มากที่สุด เนื่องจากราคาไม่แพงและมีความจุสูง หน่วยความจำชนิดนี้เก็บข้อมูลเลขฐานสองแต่ละบิตไว้ที่ตัวเก็บประจุ ซึ่งจะมีการคายประจุทำให้ข้อมูลที่เก็บไว้หายไปได้ จึงต้องออกแบบให้มีการย้ำสัญญาณไฟฟ้าหรือที่เรียกว่ารีเฟรช (refresh) ให้ตัวเก็บประจุตลอดเวลา เพื่อให้ข้อมูลที่เก็บภายในยังคงอยู่ตลอดการใช้งาน ซึ่งการรีเฟรชดังกล่าวมีผลให้หน่วยความจำชนิดนี้อ่านและเขียนข้อมูลได้ช้า
ในการเข้าถึงข้อมูลของไดนามิกแรมจะแบ่งเวลาในการเข้าถึงข้อมูลเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงจัดเตรียม (setup time) คือเวลาที่ใช้ในการเตรียมพื้นที่ในแรมให้พร้อมในการรับหรือส่งข้อมูล ภายในแรมแบ่งเป็นตารางที่สามารถระบุเป็นแถว (row) และสดมภ์ (column) แต่ละช่องคือพื้นที่ใช้เก็บข้อมูลแบ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ (address) การจะอ่านหรือเขียนข้อมูล ซีพียูต้องส่งสัญญาณที่ระบุตำแหน่งดังกล่าวไป เพื่อเตรียมการรับหรือส่งข้อมูลของพื้นที่ที่ระบุ สำหรับส่วนที่สองเรียกว่า ช่วงวงรอบการทำงาน (cycle time) คือ เวลาที่ใช้ในการอ่านหรือเขียนข้อมูลในตำแหน่งที่อยู่ที่ระบุส่งกลับมายังซีพียู การอ่านข้อมูลของดีแรมในยุคแรกๆ อ่านข้อมูลทีละ 4 ไบต์ โดยต้องส่งสัญญาณระบุตำแหน่งที่อยู่เป็นแถวและสดมภ์ของแต่ละไบต์ไปยังแรม
การเลือกซื้อ RAM ควรจะดูที่อะไรบ้าง
RAM เป็นหน่วยความจำที่สามารถลบ และเขียนใหม่ได้ แต่ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ถ้าไม่มีไฟเลี้ยงให้กับตัวเอง ปัจจุบันที่นิยมใช้กันก็จะเป็นชนิด SDRAM และ DDRAM ซึ่งแต่ก่อนจะมีชนิด EDO ซึ่งปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมใช้กันแล้ว และสุดท้ายเป็นชนิด RDRAM หรือที่เรียกกันจนชินว่า Ram bus วิธีการที่จะเลือกซื้อ RAM ในปัจจุบันก็ควรจะเลือกเป็น RAM แบบสองชนิดแรกและความจุไม่ควรต่ำกว่า 256 MB ถ้าจะให้ดีควรจะเป็น DDR ซึ่งมีราคาที่ต่ำลงกว่าแต่ก่อนและคุณต้องทราบด้วยว่า Slot (ช่องเสียบ Ram ) ใน Main Board ว่าซัพพอร์ตกับ Ram ประเภทไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น